ควรให้ความรักแก่คนอื่นๆ และให้ความร่วมมือเมื่อเขาต้องการให้ช่วยเหลือ และช่วยเหลือเขาอย่างสุดความสามารถด้วยความจริงใจที่เรามี การฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีน้ำใจ นอกจากจะทำให้เรามีจิตใจที่ดีงามเบิกบานแจ่มใส ผิวพรรณผ่องใส ใบหน้าอิ่มเอิบแล้วยังทำให้เราได้มิตรสหายมาก ใครก็อยากคบหาสมาคมด้วยเพราะความมีน้ำใจแสดงถึงความมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ แล้วชีวิตของเราจะพบแต่ความสุขตลอดไป เพราะสังคมของเราจะเป็นสังคมแห่งความสันติสุข
ธุระส่วนตัว ธุระทุกประเภทที่เป็นส่วนตัวของคุณ คุณอย่าใช้เวลาทำงานมาทำเป็นอันขาดเชียวนะคะ จำไว้เลยนะคะ เบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้เฉพาะ ลูกค้า ที่จะโทรติดต่อเรื่อง งาน อย่าให้เบอร์ที่ทำงานกับเพื่อนหรือแฟน แล้วก็คุยกันนอกเรื่องกันเป็นวัน ๆ รับรองได้ว่า อนาคตทางการงานของคุณคงจะไม่รุ่งแน่นอน เพื่อให้ประสบความสำเร็จทางการทำงานบางท่านถึงกับตั้งกฎไว้กับตัวเองเลยก็มี ว่า ในชั่วโมงการทำงาน เขาจะไม่ทำอะไรที่ไม่ใช่งาน เช่น ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่คุยโทรศัพท์ส่วนตัว ไม่ไป ธนาคาร สำหรับธุระส่วนตัวก็จะใช้เวลาที่ไม่ใช่เวลางานเท่านั้น 7. ความรัก ไม่ได้เด็ดขาดสำหรับความคิดที่จะมีความรักใน ที่ทำงานเดียวกัน จริง ๆ คุณก็ทำได้ แต่รับรองได้ว่า มันจะทำลายอนาคตการทำงานของคุณ เพราะทุกคนจะมองเหมือนจับผิดว่าคุณใช้เวลาในการทำงาน มาสร้างตำนานรักมากกว่า อย่าเสี่ยงจะดีกว่านะคะ 8. เป้าหมาย เป้าหมาย และ เป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับเจ้านายของคุณ ถ้าคุณทำงานแบบมีเป้าหมายว่า งานแต่ละอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณมีแผนการเสร็จเมื่อไหร่ คุณมีเป้าหมายในการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จตามที่ หัวหน้า หรือ บริษัทตั้งเป้า ถึงคุณจะทำไม่ได้จริง แต่คุณต้องพยายามเต็มที่แล้วนะ รับรองได้ว่า หัวหน้าคุณคงมองคุณแบบไม่ธรรมดา และจะเป็นโอกาสที่ดีของคุณในการทำตัวให้น่าเชื่อถือ แต่ระวังอย่าใช้เป้าหมายมาพูดและทำไม่เคยได้เลย เพราะจะกลายเป็นการคุยอวดมากกว่า 9.
วิธีการรับฟังผู้อื่น และการสนับสนุนให้อีกฝ่ายเป็นผู้พูด โดยการใช้การโต้ตอบเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลอย่างดีที่สุดในกรณีที่อีกฝ่ายมาหาเรา และต้องการให้เรารับฟัง วิธีนี้ทำได้ง่าย ๆ โดยการเป็นผู้ฟังไม่ต้องใช้ความคิดอะไรกับเนื้อหาสาระมากนัก นอกจากนั้นยังช่วยให้เราไม่สามารถต้องตกหลุมพรางจนกลายต้องรับผิดชอบกับปัญหาของคนอื่น 2. วิธีการช่วยให้ผู้อื่นคิดแก้ปัญหาของตนเอง เป็นการรับฟังและตอบโต้ เพื่อเป็นการช่วยเกื้อหนุนให้อีกฝ่ายสามารถวิเคราะห์ปัญหาของตนเองได้จะชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีการเรียบเรียงขั้นตอนการคิดอย่างมีระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสะท้อนกลับจุดสำคัญของปัญหา คุณค่าของอีกฝ่ายที่มีต่อปัญหา ทางเลือกและการตัดสินใจช่วยให้อีกฝ่ายสามารถมุ่งไปยังการแก้ไขปัญหาแต่เพียงอย่างเดียว 3. วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นยอมรับผิด เป็นการพยายามช่วยให้อีกฝ่ายยอมรับผิดชอบและตัดสินใจด้วยตนเอง โดยชี้ให้เขาเห็นจุดสำคัญของปัญหาเพราะจะช่วยให้เขาสามารถมุ่งที่ตัวปัญหาโดยไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกต่อต้าน มีอยู่ 4 ประการ คือ การค้นหาสำคัญของปัญหา การตัดสินปัญหา ทางเลือก การตัดสินใจ(แต่ทุกอย่างจะสำเร็จได้ก็ต้องลงมือปฏิบัติเสียก่อน) 4. วิธีการต่อรอง จุดสำคัญของการเจรจา-ต่อรองในกรณีที่เรามีปัญหา คือ การใช้คำว่า " ฉัน " เพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เราต้องการแทนการใช้คำว่า " คุณ " เพราะทำให้อีกฝ่ายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน นอกจากนี้การรับฟังและการสะท้อนกลับก็มีความสำคัญพอ ๆ กัน เพราะช่วยให้เราเข้าใจ และตอบโต้อีกฝ่ายเพื่อหาทางออกได้เป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย.
การเป็นคนเก่งนั้น ไม่ใช่เพราะความสามารถในการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นด้วย jobsDB ขอเสนอ 12 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงเพื่อชีวิตการทำงาน อันจะนำไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานของคุณ ดังนี้ 1. มนุษยสัมพันธ์ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เพื่อน ๆ ที่ทำงานไม่ชอบ ไม่อยากคุยด้วย หรือ เข้ากับเพื่อนใน ที่ทำงานไม่ได้เลย คงต้องถึงเวลาพิจารณาและปรับปรุง ทักษะ ด้าน สัมพันธ์กันเร่งด่วนแล้วละคะ อย่ามัวแต่หลอกตัวเองว่า เราดีแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะถ้าเราดีจริงแล้วเราจะไม่มีเพื่อนเอาเลยหรือคะ มนุษยสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณไม่มีทาง ประสบความสำเร็จ ได้ ถ้ามนุษย์สัมพันธ์คุณแย่มาก ๆ ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ตาม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและแน่นอนคุณเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องติดต่อกับคนอื่น 2. ทีม คุณ ทำงานเป็นทีม ได้หรือเปล่า เคยสังเกตตัวเองไหมคะว่า คุณทำงานเป็นทีมได้ดีแค่ไหน หรือว่าต้องทำงานคนเดียวถึงจะดี? ในอนาคต การทำงาน จะ เน้นบุคคลที่ทำงานเป็นทีมได้ดีมากกว่าคนที่ชอบทำงานคนเดียว คุณทราบหรือไม่ว่า ในขณะนี้ทุกมหาวิทยาลัยในอเมริกา มีคอร์สฝึกสอนการทำงานเป็นทีมเพื่อรองรับความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต ทำไมต้องเน้นเป็นทีมนะหรือคะ?
ความไว้เนื้อเชื่อใจ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขและราบรื่น เราจำเป็นต้องให้ผู้อื่นไว้วางใจในตัวคุณ เช่น การตรงต่อเวลา การรักษาสัญญาในเรื่องที่เอ่ยปากสัญญาไปแล้ว จำไว้เสมอว่าผู้ที่ไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ยากที่ใครจะคบเป็นเพื่อนได้อย่างสนิทใจ สิ่งที่ควรทำ การต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้อื่น เราควรต้องทำตัวให้น่าเชื่อถือเกือบจะทุกๆ เรื่อง 3. การยอมรับนับถือ ทุกคนควรรู้จักนับถือตัวเอง แต่ก่อนที่จะรู้จักนับถือตนเอง เราควรรู้จักนับถือผู้อื่นก่อน สิ่งที่ควรทำ ควรให้ความนับถือทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างสนิทใจ 4. มีส่วนร่วมและรู้จักการแบ่งปัน สัมพันธภาพที่ดีที่สุด คือการได้มีส่วนร่วมและรู้จักการแบ่งปันในเรื่องต่างๆ เช่น การมีส่วนร่วมในประสบการณ์ รวมถึงการรับฟังความฝันของเพื่อน รวมทั้งความไม่สมหวังของเขา สิ่งที่ควรทำ พูดให้น้อย และรับฟังผู้อื่นให้มาก 5. มีความยืดหยุ่น สัมพันธภาพที่ดีระหว่างความเป็นเพื่อนคือความยืดหยุ่นสำหรับความผิดพลาด เช่น การที่คนคนหนึ่งสามารถยอมรับและปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ คนที่ยืดหยุ่นได้มากก็จะสามารถมีความสุขได้มาก สิ่งที่ควรทำ ไม่ยึดติด ยอมอภัยให้ผู้อื่น 6.
ทีมแก้ปัญหา ( Problem - Solving Teams) ประกอบด้วยกลุ่มของพนักงาน และ ผู้บริหารซึ่งเข้ามารวมกลุ่มด้วยความสมัครใจ และประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่ออภิปรายหาวิธีการสำหรับการแก้ปัญหา โดยทั่วไปทีมแก้ปัญหาทำหน้าที่เพียง ให้คำแนะนำเท่านั้น แต่จะไม่มีอำนาจที่จะทำให้เกิดการกระทำ ตามคำแนะนำ ตัวอย่างของทีมแก้ปัญหาที่นิยมทำกัน คือ ทีม QC (Quality Circles) 2. ทีมบริหารตนเอง ( Self - Managed Teams) หมายถึง ทีมที่สมาชิกทุกคนล้วน รับผิดชอบต่อลักษณะทั้งหมดของการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง โดยเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ซึ่งสมาชิกจะปฏิบัติงานโดยทั่วไป มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับงาน ทีมบริหารตนเองสามารถที่จะเลือกสมาชิกผู้ร่วมทีม และสามารถให้สมาชิกมีการตรวจสอบ ซึ่งกันและกัน 3. ทีมที่ทำงานข้ามหน้าที่กัน ( Cross - Function Teams) เป็นการประสมประสาน ข้ามหน้าที่งาน ความสามารถในการดึงทรัพยากรบุคคลผนวกเข้าด้วยกันจากหน้าที่ ทางธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสมรรถภาพในด้านความแตกต่าง โดยเป็นการใช้ กำลังแรงงาน ตั้งเป็นทีมข้ามหน้าที่ชั่วคราวซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคณะกรรมการ (Committees) เข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน, พัฒนาความคิดใหม่ๆ ร่วมมือกันแก้ปัญหา และทำโครงการที่ซับซ้อน ทีมข้ามหน้าที่ ต้องการเวลามากเพื่อสมาชิกจะต้องเรียนรู้งาน ที่แตกต่าง ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการสร้างความไว้ใจ และสร้างการทำงานเป็นทีม เนื่องจาก แต่ละคนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน 4.
งานนั้นสามารถทำได้ดีขึ้นหรือไม่ หากใช้คนมากกว่าหนึ่งคน 2. งานนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทุกคนในกลุ่ม หรือ เพื่อคนใดคนหนึ่ง 3. การเลือกใช้ประเภทของทีมให้เหมาะสมกับสถานการณ์
คิดแต่ทางบวก สร้างโลกสวยงาม S = Smile…ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างความประทับใจ Y = Yours…จริงใจให้กัน ช่วยเหลือการงาน C = Compromise ….. สมานสามัคคี ด้วยการประนีประนอม H = Human Relations ……สัมพันธ์ที่ดี สร้างมิตรผูกพัน O = Oral Communication….
ก็ต่อไปโลกเราก็จะแคบลงเพราะการพัฒนาในด้านต่าง ๆ มีมากขึ้น การทำงานก็ต้องเป็นทีมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นผู้มีทักษะในการทำงานเป็นทีม และ เป็นผู้ร่วมทีมที่ดีจะเป็นข้อจำเป็นในการทำงานทุกที่ 3. Committed: หรือ ข้อตกลงในการทำงานระหว่างคุณกันคนอื่น ๆ นึกไว้เสมอเลยนะคะว่า อะไรที่คุณรับปากกับใครก็แล้วแต่ คุณต้อง รับ ผิดชอบและทำให้ได้ตามที่รับปาก ถ้าไม่ได้หรือว่าล่าช้ากว่าที่เรารับปาก คุณต้องแจ้งล่วงหน้าให้แก่บุคคลที่คุณรับปากอย่างน้อยสองหรือสามวัน อันนี้เป็น มารยาทในการทำงาน ที่ดี เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะรับปากใครในเรื่องของการทำงาน คิดให้รอบคอบก่อนนะคะ 4. ฉันเป็นฉันเอง ประเภทสาวมั่น หนุ่มมั่น ที่เราอาจจะเห็นจากทีวี หรือ ภาพยนตร์ ถ้าจะนำมาใช้คุณต้องดูเวลา และสถานที่ให้ดีก่อนนะคะ ไม่งั้นแทนที่จะช่วยเสริมให้คุณดูดี มีภาพพจน์ กลับจะทำลายอนาคต ทางการทำงานของคุณไปเลย หลักการที่ดี ก็คือ ดูบุคคลที่เราติดต่อด้วย และจะมั่นใจอะไรก็ควรกระทำอย่างพอดี และเราจะเป็นที่ชื่นชมว่าเป็นคนมีมารยาท และประสบความสำเร็จในการติดต่อทางธุรกิจ 5. ขออยู่เงียบ ๆ คนเดียว ข้อนี้สำคัญมาก อย่าพยายามทำตัวไม่แคร์ใคร ไม่รู้จักใครเพราะสุดท้ายคุณจะเวียนไปหัวข้อแรก และแน่นอน คุณจะเป็นคนแรกที่ทุกคนลืม อย่าเป็นคนที่เครียดง่าย สนุกยาก ใครๆเข้าหายาก คงจะดีกว่า ถ้าคุณจะทำตัวเป็นคนที่ยิ้มง่าย และ เป็นมิตรกับทุกคน เวลาเศร้า เก็บไว้กับคนสนิท และรู้ใจดีกว่านะคะ 6.