ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoidsหรือ Piles) คือ การมีหลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของทวารหนัก และที่ขอบรูทวารหนักโป่งพองและยื่นออกมา โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. ริดสีดวงทวารชนิดภายใน ที่ปกติจะไม่โผล่ออกมา และคลำไม่ได้ อาจมีอาการเลือดแดงสดออกมาขณะถ่าย 2. ริดสีดวงทวารชนิดภายนอก ที่สามารถมองเห็น และคลำได้ โดยอาจจะมีเลือดออกขณะหรือหลังถ่ายอุจจาระ สาเหตุ ที่พบบ่อย คือ อุปนิสัยการรับประทานอาหาร และการขับถ่าย รวมทั้งการตั้งครรภ์ การยืนนานๆ และอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงริดสีดวง คือ ชอบนั่งเล่นโทรศัพท์ตอนเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายอุจจาระควบคู่ไปด้วยจะทำให้เราใช้เวลาในการขับถ่ายนานยิ่งขึ้น และมักเกิดการขับถ่ายไม่สุด เกิดการเบ่งซ้ำหลายๆ ครั้ง ซึ่งเท่ากับเราถ่ายอุจจาระมากกว่า 1 ครั้ง ในบางรายอาจเกิดการเบ่งมากถึง 10 ครั้ง ทั้งที่เข้าห้องน้ำแค่ครั้งเดียว วิธีรักษาริดสีดวงทวา ร 1. การรักษาแบบประคับประคองอาการ ได้แก่ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเพิ่มความ ทวารไม่รุนแรง ดันในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร และการใช้ยาต่าง ๆ ซึ่งมักใช้ในกรณีที่เป็นริดสีดวง 2. การรักษาทางศัลยกรรม ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ข้อบ่งชี้ และดุลยพินิจของแพทย์ 2.
เล่าก่อน เราเป็นคนขับถ่าย ไม่ดี ไม่ค่อยกินผัก ตั้งแต่เด็ก แล้วก็เป็นโรคแผลที่ปากขอบทวาร (พูดง่ายๆคือ ตูดเป็นแผล มีเลือดสดๆไหล) ตั้งแต่นานเป็นที จนกระทั่ง 3-4 เดือน เป็นครั้งนึง คือ ถี่มาก ทั้งที่พยายามกินผัก รักษาตามหมอ เป็นตั้งแต่ ม.
1 การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงทวาร ตัวยาจะทำให้หลอดเลือดดำฝ่อและหัวริดสีดวงยุบไป มักใช้กับโรคริดสีดวง ภายใน ในระยะที่ 2 วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวด แพทย์มักจะนัดมาฉีดสัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 3-5 ครั้ง สามารถช่วยให้หายขาดได้ประมาณ 60-70% 2. 2 การรักษาโดยวิธีใช้ยางรัด (Rubber band ligation) หรือยิงยางรัดโคนหรือหัวของริดสีดวงที่โผล่ออกมา ซึ่งจะทำให้หัวของริดสีดวงนั้นฝ่อและหลุดออกไปเองภายใน 5-7 วัน วิธีจะใช้ได้ผลดีริดสีดวงทวารภายใน ในระยะ 2 ผู้ป่วยมักไม่มีอาการเจ็บปวด เพียงแต่รู้สึกหน่วงๆ ประมาณ 2-3 วัน 2. 3 การทำลายเนื้อเยื่อด้วยการเผา เป็นวิธีการรักษาที่ใช้กับโรคริดสีดวงระยะที่ 2 แต่ยังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้เฉพาะเมื่อวิธีอื่นไม่ได้ผล ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ได้แก่ การเผาเนื้อเยื่อด้วยการใช้ไฟฟ้าจี้, การฉายรังสีอินฟราเรด, การใช้แสงเลเซอร์ผ่าตัด, การผ่าตัดด้วยการใช้ความเย็น เป็นต้น (การทำลายเนื้อเยื่อด้วยแสงอินฟราเรดอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับกรณีที่เป็นโรคในระยะที่ 1-2 ส่วนระยะที่ 3-4 การกลับมาเป็นซ้ำจะมีอัตราที่สูง) 2.